เราสามารถแบ่งการ์ดจอให้อยู่ในรูปแบบลัษณะของฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานได้ 2 ประเภทดังนี้
- การ์ดจอออนบอร์ด (On-Board) – คือการ์ดจอที่ถูกติดตั้งมาบนแผงวงจร Mainboard (เมนบอร์ด) โดยจะเป็นแผงวงจรเดียวกับ Mainboard ไม่สามารถถอดออกได้ และไม่สามารถอัพเกรดได้
- การ์ดจอแยก (Out-Board) – คือการ์ดจอลักษณะเป็นการแยกจาก Mainboard (เมนบอร์ด) โดยชัดเจน เป็นคนละชิ้่นส่วนกัน แต่การ์ดจอจะเสียบอยู่บนเมนบอร์ดในลักษณะการเชื่อมต่อภายนอก สามารถถอดเข้าถอดออกได้ และสามารถที่จะอัพเกรดเอาตัวใหม่มาใส่ได้ (การอัพเกรดการ์ดจอ ขึ้นอยู่กับการรองรับของเมนบอร์ดรุ่นนั้นๆ และแหล่งไฟเลี้ยงระบบ (Power Supply) ด้วย ผู้ใช้งานควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน)
ในลักษณะของการประมวลผลทั้ง 2 แบบด้านบนนี้ ส่วนที่แตกต่างกันเราสามารถสรุปได้ดังนี้
- การ์ดจอออนบอร์ดจะใช้งานการประมวลผลกราฟฟิคจาก CPU หน่วยประมวลผลหลักของคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับการ์ดจอแยกจากเมนบอร์ดนั้นจะใช้งาน Graphics Processing Unit (GPU) แยกจาก CPU อย่างชัดเจน ทำให้เรื่องประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟฟิคนั้น การ์ดจอแยกจะดีกว่ามากๆ เพราะไม่รบกวนการทำงานของระบบ CPU ซึ่งจะต้องประมวลผลทุกๆส่วนของระบบคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว (แต่หากการใช้งานทั่วๆไปก็คงไม่เห็นผลมากนัก นอกจากการที่จะต้องประมวลผลภาพกราฟฟิคสูงๆ เช่น การเล่นเกมส์ เป็นต้น)
- การ์ดจอแบบแยกจะต้องซื้อมาใส่เพิ่มกับเมนบอร์ด หากว่าเมนบอร์ดมีการ์ดจอแบบออนบอร์ดอยู่แล้ว ให้เสียบสายหน้าจอที่การ์ดจอที่เราทำการซื้อมาใส่ หากเสียบสายที่เมนบอร์ด เท่ากับว่าเราใช้งานการ์ดจอแบบออนบอร์ด เพราะฉะนั้น โปรดระวังในเรื่องของการเสียบสายหน้าจอด้วย (ปัจจุบันเมนบอร์ดบางรุ่นไม่มีการ์ดจอแบบออนบอร์ดมาให้ จะต้องซื้อการ์ดจอแยกมาใส่เพิ่มเอง)
- การทำงานของ GPU ย่อมเร็วกว่า CPU (ทางด้านการประมวลผลกราฟฟิคเท่านั้น) เพราะว่า GPU จะเน้นจำนวน Core ที่เยอะกว่า CPU แต่หมายถึง 1 Core ของ GPU จะมีได้ประมวลผลเร็วเทียบเท่ากับ 1 Core ของ CPU เนื่องจากการประมวลผลกราฟฟิคของการ์ดจอจะเน้นการทำงานหลายๆ Core พร้อมๆกัน (Multi-Core Processing) ซะมากกว่า
เราสามารถแบ่งการ์ดจอให้อยู่ในรูปแบบลัษณะของฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานได้ 2 ประเภทดังนี้
- การ์ดจอออนบอร์ด (On-Board) – คือการ์ดจอที่ถูกติดตั้งมาบนแผงวงจร Mainboard (เมนบอร์ด) โดยจะเป็นแผงวงจรเดียวกับ Mainboard ไม่สามารถถอดออกได้ และไม่สามารถอัพเกรดได้
- การ์ดจอแยก (Out-Board) – คือการ์ดจอลักษณะเป็นการแยกจาก Mainboard (เมนบอร์ด) โดยชัดเจน เป็นคนละชิ้่นส่วนกัน แต่การ์ดจอจะเสียบอยู่บนเมนบอร์ดในลักษณะการเชื่อมต่อภายนอก สามารถถอดเข้าถอดออกได้ และสามารถที่จะอัพเกรดเอาตัวใหม่มาใส่ได้ (การอัพเกรดการ์ดจอ ขึ้นอยู่กับการรองรับของเมนบอร์ดรุ่นนั้นๆ และแหล่งไฟเลี้ยงระบบ (Power Supply) ด้วย ผู้ใช้งานควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน)
ในลักษณะของการประมวลผลทั้ง 2 แบบด้านบนนี้ ส่วนที่แตกต่างกันเราสามารถสรุปได้ดังนี้

- การ์ดจอออนบอร์ดจะใช้งานการประมวลผลกราฟฟิคจาก CPU หน่วยประมวลผลหลักของคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับการ์ดจอแยกจากเมนบอร์ดนั้นจะใช้งาน Graphics Processing Unit (GPU) แยกจาก CPU อย่างชัดเจน ทำให้เรื่องประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟฟิคนั้น การ์ดจอแยกจะดีกว่ามากๆ เพราะไม่รบกวนการทำงานของระบบ CPU ซึ่งจะต้องประมวลผลทุกๆส่วนของระบบคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว (แต่หากการใช้งานทั่วๆไปก็คงไม่เห็นผลมากนัก นอกจากการที่จะต้องประมวลผลภาพกราฟฟิคสูงๆ เช่น การเล่นเกมส์ เป็นต้น)
- การ์ดจอแบบแยกจะต้องซื้อมาใส่เพิ่มกับเมนบอร์ด หากว่าเมนบอร์ดมีการ์ดจอแบบออนบอร์ดอยู่แล้ว ให้เสียบสายหน้าจอที่การ์ดจอที่เราทำการซื้อมาใส่ หากเสียบสายที่เมนบอร์ด เท่ากับว่าเราใช้งานการ์ดจอแบบออนบอร์ด เพราะฉะนั้น โปรดระวังในเรื่องของการเสียบสายหน้าจอด้วย (ปัจจุบันเมนบอร์ดบางรุ่นไม่มีการ์ดจอแบบออนบอร์ดมาให้ จะต้องซื้อการ์ดจอแยกมาใส่เพิ่มเอง)
- การทำงานของ GPU ย่อมเร็วกว่า CPU (ทางด้านการประมวลผลกราฟฟิคเท่านั้น) เพราะว่า GPU จะเน้นจำนวน Core ที่เยอะกว่า CPU แต่หมายถึง 1 Core ของ GPU จะมีได้ประมวลผลเร็วเทียบเท่ากับ 1 Core ของ CPU เนื่องจากการประมวลผลกราฟฟิคของการ์ดจอจะเน้นการทำงานหลายๆ Core พร้อมๆกัน (Multi-Core Processing) ซะมากกว่า
ประเภทของการ์ดจอตามผู้ผลิต
ในปัจจุบัน บริษัทที่ผลิตการ์ดจอออกมาจำหน่ายมีอยู่ด้วยกัน 2 บริษัทใหญ่ๆ ซึ่งเราจะได้เห็นกันในตลาดการ์ดจอทั่วไป ในส่วนนี้เราจะพูดถึงการ์ดจอแบบแยกเท่านั้น เพราะสามารถซื้อขายและนำมาเปลี่ยนบนเมนบอร์ดได้เลย
- Nvidia – สัญญลักษณ์รูปตาสีเขียว มีประสิทธิภาพสูง และราคาค่อนค้างจะสูงหากเทียบกับ ATI หากเทียบที่ประสิทธิภาพเท่าๆกัน
- ATI – สัญญลักษณ์เป็นสีแดงคล้ายไฟ มีประสิทธิภาพพอสมควร หากจะมองทางด้านเทคโนโลยีอาจจะยังไม่สามาระเทียบเท่ากับ Nvidia ได้ แต่ราคาจะถูกกว่า หากเทียบที่ประสิทธิภาพเท่าๆกัน
ในปัจจุบัน บริษัทที่ผลิตการ์ดจอออกมาจำหน่ายมีอยู่ด้วยกัน 2 บริษัทใหญ่ๆ ซึ่งเราจะได้เห็นกันในตลาดการ์ดจอทั่วไป ในส่วนนี้เราจะพูดถึงการ์ดจอแบบแยกเท่านั้น เพราะสามารถซื้อขายและนำมาเปลี่ยนบนเมนบอร์ดได้เลย

- Nvidia – สัญญลักษณ์รูปตาสีเขียว มีประสิทธิภาพสูง และราคาค่อนค้างจะสูงหากเทียบกับ ATI หากเทียบที่ประสิทธิภาพเท่าๆกัน
- ATI – สัญญลักษณ์เป็นสีแดงคล้ายไฟ มีประสิทธิภาพพอสมควร หากจะมองทางด้านเทคโนโลยีอาจจะยังไม่สามาระเทียบเท่ากับ Nvidia ได้ แต่ราคาจะถูกกว่า หากเทียบที่ประสิทธิภาพเท่าๆกัน
ประเภทการ์ดจอตามลักษณะของการใช้งาน
เราสามารถแบ่งการ์ดจอตามลักษณะของการใช้งานได้ทั้งหมด 4 ประเภทดังต่อไปนี้
- การใช้งานแสดงผลทั่วไป – ไม่เน้นกราฟฟิคเลย ส่วนมากจะใช้งานเป็นการ์ดจอแบบ On-Board หรือการ์ดจอที่ติดมากับ Mainboard อยู่แล้ว ไม่มีการเสียบการ์ดจอเพิ่ม
- การใช้งานแสดงผลกราฟฟิคเล็กน้อย – ส่วนมากจะเน้นทางด้านดูหนัง เน้นความบันเทิง แต่ไม่รวมการเล่นเกมส์แบบ 3D หรือ Animation บนกราฟฟิคสูงๆ จะใช้งานการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพการแสดงผลต่ำและราคาถูก แต่รองรับการแสดงผลระดับ HD ขึ้นไป
- การเล่นเกมส์และการแสดงผล 3D – เน้นการเล่นเกมส์บนภาพที่สมจริงเป็นหลัก ส่วนมากจะใช้งานการ์ดจอที่รองรับการแสดงผลแบบ 3 มิติ หรือการ์ดจอที่มีการแสดงผลที่สูงมากๆ ราคาของการ์ดจอชนิดนี้อาจจะโดดสูงอยู่บ้าง หากอยากได้ตัวที่สามารถเล่นเกมส์ได้แบบไม่กระตุก หรืออาจจะเป็นลักษณะของการต่อพ่วงการ์ดจอหลายๆตัว (เทคโนโลยีการใช้งานการ์ดจอตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป มาช่วยกันทำงาน ซึ่งจะพูดถึงในบทความต่อๆไป)
- การใช้งานด้าน Graphic Workstation – เน้นทางด้านการทำงานด้านการออกแบบ การใช้งานโปรแกรมออกแบบสร้างผลงานทางด้านกราฟฟิค ซึ่งจะต้องใช้การประมวลผลของระบบ Graphics Processing Unit (GPU) อยู่ตลอดเวลาและแบบ Real-Time เพื่อให้งานเดินไปอย่างราบรื่น การ์ดจอที่ใช้งานจะต้องมีประสิทธิภาพสูงมากๆ และมีการต่อพ่วงการ์ดจอหลายๆตัว หรือต่อพ่วง GPU เพิ่มเติมเพื่อใช้ในการประมวลผลภาพที่สมบูรณ์สมจริงและรวดเร็ว ปัจจุบันการ์ดจอชนิดนี้ได้แก่ NVIDIA QUADRO และ AMD FirePro ซึ่งราคาจะสูงมากๆ ไม่เหมาะกับการนำมาเล่นเกมส์ซักเท่าไร เพราะว่าคอเกมส์ทั้งหลาย แค่ใช้การ์ดจอสำหรับเล่นเกมส์ก็เหลือๆแล้ว
เราสามารถแบ่งการ์ดจอตามลักษณะของการใช้งานได้ทั้งหมด 4 ประเภทดังต่อไปนี้
- การใช้งานแสดงผลทั่วไป – ไม่เน้นกราฟฟิคเลย ส่วนมากจะใช้งานเป็นการ์ดจอแบบ On-Board หรือการ์ดจอที่ติดมากับ Mainboard อยู่แล้ว ไม่มีการเสียบการ์ดจอเพิ่ม
- การใช้งานแสดงผลกราฟฟิคเล็กน้อย – ส่วนมากจะเน้นทางด้านดูหนัง เน้นความบันเทิง แต่ไม่รวมการเล่นเกมส์แบบ 3D หรือ Animation บนกราฟฟิคสูงๆ จะใช้งานการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพการแสดงผลต่ำและราคาถูก แต่รองรับการแสดงผลระดับ HD ขึ้นไป
- การเล่นเกมส์และการแสดงผล 3D – เน้นการเล่นเกมส์บนภาพที่สมจริงเป็นหลัก ส่วนมากจะใช้งานการ์ดจอที่รองรับการแสดงผลแบบ 3 มิติ หรือการ์ดจอที่มีการแสดงผลที่สูงมากๆ ราคาของการ์ดจอชนิดนี้อาจจะโดดสูงอยู่บ้าง หากอยากได้ตัวที่สามารถเล่นเกมส์ได้แบบไม่กระตุก หรืออาจจะเป็นลักษณะของการต่อพ่วงการ์ดจอหลายๆตัว (เทคโนโลยีการใช้งานการ์ดจอตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป มาช่วยกันทำงาน ซึ่งจะพูดถึงในบทความต่อๆไป)
- การใช้งานด้าน Graphic Workstation – เน้นทางด้านการทำงานด้านการออกแบบ การใช้งานโปรแกรมออกแบบสร้างผลงานทางด้านกราฟฟิค ซึ่งจะต้องใช้การประมวลผลของระบบ Graphics Processing Unit (GPU) อยู่ตลอดเวลาและแบบ Real-Time เพื่อให้งานเดินไปอย่างราบรื่น การ์ดจอที่ใช้งานจะต้องมีประสิทธิภาพสูงมากๆ และมีการต่อพ่วงการ์ดจอหลายๆตัว หรือต่อพ่วง GPU เพิ่มเติมเพื่อใช้ในการประมวลผลภาพที่สมบูรณ์สมจริงและรวดเร็ว ปัจจุบันการ์ดจอชนิดนี้ได้แก่ NVIDIA QUADRO และ AMD FirePro ซึ่งราคาจะสูงมากๆ ไม่เหมาะกับการนำมาเล่นเกมส์ซักเท่าไร เพราะว่าคอเกมส์ทั้งหลาย แค่ใช้การ์ดจอสำหรับเล่นเกมส์ก็เหลือๆแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น